จุดเปลี่ยนการท่องเที่ยวเรือยอชท์ในอนาคต

ธุรกิจเรือยอชท์ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สืบเนื่องมาจากกระแสนิยมการท่องเที่ยวแบบหรูหรา (Luxury Tourism) ผู้คนให้ความสำคัญกับการท่องเที่ยว เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ (Leisure tourism) เน้นความเป็นส่วนตัว ความสะดวกสบาย และ บริการพิเศษที่ตอบสนอง ต่อความต้องการเฉพาะตัว

การเพิ่มขึ้นของประชากรที่มีรายได้เหลือจ่าย เป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญที่กลายเป็นแรงขับเคลื่อนกระแสนิยมการท่องเที่ยวแบบหรูหรา ชนชั้นกลางที่มีรายได้เหลือจ่ายต้องการเข้าถึงประสบการณ์การท่องเที่ยวแบบหรูหรามากขึ้น รายงานจาก Grand View Research ระบุว่า ในปี ค.ศ. 2021 ตลาดการท่องเที่ยวแบบหรูหรามีมูลค่ากว่า 1.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ และยังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดการณ์ว่าในช่วงปีค.ศ. 2022 – 2030 อัตราการเติบโตของการท่องเที่ยวแบบหรูหราจะอยู่ที่ 7.6%

สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นสำคัญต่อธุรกิจเรือยอชท์ การแพร่ระบาดของโรคทำให้นักท่องเที่ยวมีความกังวลเรื่องสุขอนามัย และต้องการหลีกเลี่ยงสภาพแวดล้อมที่แออัด เรือยอชท์จึงเปรียบเสมือนเป็นสรวงสวรรค์ที่นักท่องเที่ยวสามารถพักผ่อนและทำกิจกรรมต่างๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องพบปะกับคนแปลกหน้า

ในปีค.ศ. 2020 ที่ผ่านมา ธุรกิจเช่าเรือยอชท์ในตลาดโลกมีมูลค่าสูงถึง 8.12 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ คิดเป็นสัดส่วนราวร้อยละ 30-35 ของตลาดเรือโลก และยังมีแนวโน้มที่จะขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5.1% ในช่วงปีค.ศ. 2021 – 2028

กล่าวได้ว่าธุรกิจการท่องเที่ยวด้วยเรือยอชท์กำลังเติบโตขึ้นท่ามกลางกระแสการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว ซึ่งนอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อภูมิทัศน์ในอนาคตของธุรกิจการท่องเที่ยวด้วยเรือยอชท์ ดังนี้

1. ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีเครื่องยนต์
การตื่นตัวในด้านสิ่งแวดล้อมทำให้หลายปีมานี้มีการวิจัยพัฒนาเครื่องยนต์ประเภทต่างๆ ทั้งเครื่องยนต์ไฮบริด เครื่องยนต์พลังงานไฟฟ้า และเครื่องยนต์พลังงานไฮโดรเจน โดยมีเป้าหมายที่จะผลิตเครื่องยนต์ที่ช่วยประหยัดเชื้อเพลิง ลดมลภาวะทางอากาศที่เกิดจากการเผาไหม้ของเชื้อเพลิง รวมถึงลดมลภาวะทางเสียงและปัญหาการสั่นสะเทือนจากเครื่องยนต์ ตัวอย่างความสำเร็จ ได้แก่ เรือ 60 Sunreef Power Eco จาก Sunreef Yacht ซึ่งนำระบบโซลาร์เซลล์มาใช้ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 68.6 ตารางเมตร ผลิตไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 21.5 กิโลวัตต์

2. การพัฒนาของเทคโนโลยีวัสดุศาสตร์
อู่ต่อเรือหลายแห่งหันมาใช้เส้นใยบะซอลต์ (basalt fiber) แทนใยแก้ว (glass fiber) ในการผลิตลำเรือ เนื่องจากเส้นใยบะซอลต์มีความทนทานมากกว่า มีน้ำหนักเบา และยังเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะเส้นใยบะซอลต์ไม่เกิดปฏิกิริยาที่เป็นพิษเมื่อสัมผัสน้ำหรืออากาศ ทั้งยังไม่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจกในขั้นตอนการผลิตเส้นใย เส้นใยบะซอลต์เป็นวัสดุไม่ติดไฟ และไม่ไวต่อการระเบิด จึงเป็น วัสดุที่มีความปลอดภัยสูง

3. การใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี IoT
สมาร์ทยอชท์คือความก้าวหน้าที่เกิดจากการนำเทคโนโลยี IoT มาปรับใช้ ทำให้การล่องเรือทันสมัย สะดวกสบาย ปลอดภัย และยกระดับความหรูหราได้มากขึ้น เจ้าของเรือสามารถควบคุมสั่งการเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ บนเรือผ่านสมาร์ทโฟน สามารถตรวจสอบตำแหน่งเรือด้วยระบบ GPS ที่มีความแม่นยำ นอกจากนี้ การเชื่อมต่อระบบต่างๆ ภายในเรือเข้ากับแอปพลิเคชันสมาร์ทโฟน ยังช่วยให้สามารถเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ การแจ้งเตือนระดับแบตเตอรี่ ระบบแจ้งเตือนอัคคีภัย ไปจนถึงระบบช่วยเตือนก่อนการชน

4. การเปลี่ยนแปลงที่ก่อให้เกิดนวัตกรรมทางธุรกิจ
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยทางเทคโนโลยี ปัญหาสิ่งแวดล้อม หรือสถานการณ์โรคระบาด ล้วนกระตุ้นให้เกิดการปรับตัวของภาคธุรกิจเรือยอชท์ ท่าเรือมารีนาหลายแห่งอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวสามารถจองที่พักใกล้ท่าเรือ หรือตรวจสอบสภาพอากาศผ่านแอปพลิเคชันบทสมาร์ทโฟนได้ เว็บไซต์ SuperYacht Times ลงทุนสร้างซุปเปอร์ยอชท์เมตาเวิร์สเป็นเจ้าแรกในปีค.ศ. 2020

นอกจากการปรับตัวตามกระแสเทคโนโลยีแล้ว การปิดประเทศในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังทำให้ธุรกิจเรือยอชท์หันมาให้ความสนใจกับนักท่องเที่ยวภายในประเทศมากขึ้น มีการปรับเปลี่ยนแผนธุรกิจ เปิดให้เช่าเรือยอชท์ในราคาที่จับต้องได้ เพื่อขยายฐานลูกค้าจากนักท่องเที่ยวผู้มีรายได้สูงไปยังชนชั้นกลางที่ต้องการสัมผัสกับประสบการณ์ท่องเที่ยวแบบหรูหรา

5. นักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่
จำนวนนักท่องเที่ยวผู้มีรายได้สูงและชนชั้นกลางที่นิยมการท่องเที่ยวแบบหรูหรา รวมถึงกลุ่มผู้เดินทางท่องเที่ยวในนามองค์กร (corporate traveler) เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ทำให้ความต้องการที่มีต่อตลาดการท่องเที่ยวแบบหรูหรามีแนวโน้มที่จะขยายตัวสูงขึ้นทั่วโลกในอนาคต สังคมการทำงานรูปแบบใหม่ เช่น การทำงานแบบ gig worker, digital nomad หรือนโยบาย work from anywhere เอื้อให้ผู้คนใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ สามารถจัดสรรเวลาให้กับการท่องเที่ยวได้มากขึ้น

อ้างอิง:
Future Market Insights. (2022). Yacht Charter Market By Yacht, Size, Consumer & Region – Forecast 2022 – 2031. [Online]
Grand View Research. (2022). Luxury Travel Market Size, Trends & Growth Report, 2030. [Online]
Grand View Research. (2020). Yacht Charter Market Size & Trends Analysis Report, 2020-2027. [Online]
Polaris Market Research. (2021). Yacht Market Share, Size, Trends, Industry Analysis Report, By Type; By Length; By Propulsion, By Region; Segment Forecast, 2021 – 2028. [Online]
Sunreef Yachts. (2022). 60 SUNREEF POWER ECO. [Online]
SuperYacht Times. (2022). The State of Yachting 2022. [Online]
The Superyacht Life. (2022). THE FACTS – SUSTAINABILITY & SUPERYACHTS. [Online]