ARK เป็นบริษัทจัดการการลงทุนในสหรัฐอเมริกาที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2014 โดยคุณ Catherine Wood ซึ่งเป็นอดีต CIO ของ Alliance Bernstein ในช่วงปี 2020 ที่ผ่านมา ARK ได้รับความสนใจในตลาดทุนมากเนื่องจากเป็นเจ้าของกองทุนที่สามารถสร้างผลกำไรได้มากกว่า 100% ในช่วงปีที่ผ่านมา
ARK มีเป้าหมายการลงทุนที่เน้นแสวงหาโอกาสจากการลงทุนในระยะยาว โดยมุ่งสนใจลงทุนในบริษัทมหาชนที่ ARK มีความเชื่อว่าจะเป็นผู้นำและได้รับประโยชน์จากนวัตกรรมพลิกโฉม (Disruptive Innovation) ภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมจากการสร้างสรรค์ความเรียบง่าย สะดวกสบายที่มากขึ้น เข้าถึงได้ง่ายขึ้น และช่วยลดต้นทุน

ARK มองว่าตนมีความแตกต่างจากบริษัทจัดการการลงทุนทั่วไปตรงที่บริษัทเหล่านั้นมักเน้นการวิเคราะห์และกำหนดขอบเขตการลงทุนตามสาขาอุตสาหกรรมมากเกินไป (ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงในช่วงหลังเริ่มมีลักษณะของผลกระทบข้ามอุตสาหกรรมมากขึ้น) ให้ความสำคัญกับราคาหรือการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นมากเกินไป โดยมองข้ามผลกระทบที่จะเกิดขึ้นและศักยภาพการเติบโตในระยะยาว
มุมมองดังกล่าวของ ARK สอดคล้องกับแนวคิดของการคาดการณ์อนาคต (Foresight) ในเรื่อง 3 Horizons คือหากเราเน้นการวางแผนเพื่ออนาคต เราควรใช้กรอบเวลาการวิเคราะห์ที่ยาวมากขึ้น และไม่ควรให้ความสำคัญสูงสุดกับปัจจัยหรือปรากฎการณ์ที่มีผลกระทบสูงหรือมีโอกาสที่สูงในปัจจุบัน (ในกรณีนี้คือกิจการ ที่มีความสามารถในการทำกำไรได้สูงในปัจจุบันหรือในอนาคตสั้นๆ) เพียงเท่านั้น ดังเส้น Horizon 1 แต่ควรให้ความสำคัญกับสิ่งที่อาจไม่สำคัญอย่างเด่นชัดหรือไม่น่าสนใจในปัจจุบันแต่เป็นสิ่งที่จะมีผลกระทบสูงหรือสร้างโอกาสขนาดใหญ่ได้ในระยะกลางและระยะยาวในอนาคต (ในกรณีนี้คือหรือกิจการที่มีความสามารถในการทำกำไรน้อยในปัจจุบันหรือในอนาคตสั้นๆแต่มีศักยภาพที่จะสร้างกำไรมหาศาลได้ในอนาคต) ดังเส้น Horizon 2 และ Horizon 3


ARK เลือกลงทุนในประเภทของนวัตกรรมพลิกโฉมที่ต้องผ่านเกณฑ์ 3 ข้อที่ ARK กำหนดไว้คือ (1) มีต้นทุนที่ลดลงต่อเนื่องอย่างมีนัยสำคัญและมีความต้องการจากตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง (2) สามารถนำไปใช้สร้างโอกาสทางธุรกิจได้ในหลายสาขาอุตสาหกรรมและหลายภูมิภาค (3) ทำหน้าที่เป็นเสมือนแพลตฟอร์มที่สามารถมีนวัตกรรมใหม่ ๆ สร้างขึ้นจากฐานแพลตฟอร์มนี้
ความแตกต่างของ ARK จากบริษัทจัดการการลงทุนอื่นๆ อีกประการคือ ARK มีนักวิเคราะห์นอกภาคการเงินเป็นส่วนใหญ่ หรืออีกนัยยะหนึ่งคือ ARK ใช้นักวิเคราะห์ที่มีความหลากหลายทางมุมมองความคิดในการคาดการณ์อนาคตและค้นหาโอกาสสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน ซึ่งสอดคล้องกับเงื่อนไขสำคัญของการคาดการณ์อนาคต (Foresight) ที่ต้องการความหลากหลายทางความคิดจากกลุ่มต่างๆ มากกว่าการทำนาย (Forecast) โดยผู้เชี่ยวชาญสาขาใดสาขาหนึ่ง
ในปัจจุบัน ARK มีธีมการลงทุนใน 4 ธีมนวัตกรรมพลิกโฉม คือ (1) Genomic Revolution (ARKG) ซึ่งเป็นธุรกิจเกี่ยวกับการตัดต่อพันธุกรรม หรือนวัตกรรมด้านบริการสุขภาพ ยารักษาโรค หรือธุรกิจที่สร้างเสริมคุณภาพชีวิตมนุษย์ (2) Next Generation Internet (ARKW) ซึ่งเป็นธุรกิจด้านการบริหารนวัตกรรมข้อมูลข่าวสาร AI, Deep Learning, Cloud Computing ไปจนถึง Blockchain (3) Fintech Innovation (ARKF) เช่นธุรกิจ Mobile Payments, Digital Wallet, Peer-to-Peer Lending และ (4) Autonomous Technology & Robotics (ARKQ) ซึ่งประกอบด้วย EV, Automation, 3D Printing และ Space Exploration
กระบวนการทำวิจัยเพื่อค้นหาโอกาสการลงทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนสูงในอนาคตของ ARK มีทั้งการวิเคราะห์ในเชิงเปิดกว้าง (ARK Open Innovation Ecosystem) เพื่อทำความเข้าใจอย่างลุ่มลึก และกว้างขวางให้ได้มากที่สุดถึงภาพของอนาคตที่เป็นไปได้จากการเปลี่ยนแปลงของนวัตกรรมพลิกโฉม ซึ่ง ARK เรียกกระบวนการนี้ว่า IDEATION จากนั้นจึงเป็นการวิเคราะห์เพื่อคัดเลือกโอกาสผ่านการใช้โมเดลการวิเคราะห์ต่าง ๆ โดยเฉพาะกฎของ Wright ซึ่งเกี่ยวกับการลดลงของต้นทุนอย่างต่อเนื่องและความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างห่วงโซ่คุณค่า (Multi-year Value-chain Transformation) ในอนาคต ซึ่ง ARK เรียกกระบวนการนี้ว่า SIZING THE OPPORTUNITY


ARK ระบุว่าแพลตฟอร์มความร่วมมือเสมือนจริงของบริษัท (Virtual Collaboration Platform) ช่วยให้บริษัทสามารถจัดการการแลกเปลี่ยนความเข้าใจเชิงลึก (Insight) และแนวคิด (Idea) ระหว่างทีมต่าง ๆ และผู้นำความคิดที่หลากหลายจากภายนอก โดยนอกจากการใช้ข้อมูลจากแหล่งข้อมูลแบบดั้งเดิม (Traditional Sources) เช่น ข้อมูลและสถิติต่างๆ ผลประกอบการ ข่าวสาร เอกสาร ความคิดเห็น เป็นต้น แล้ว ARK ยังใช้ข้อมูลจากอีก 2 แหล่งเพิ่มเติมคือ ผลการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) จากแหล่งออนไลน์และโซเชียลมีเดีย และผลการวิเคราะห์ข้อมูลจาก Crowdsourcing หรือข้อมูลที่เป็นผลจากการระดมความคิดของคนหลากหลายกลุ่ม ซึ่ง ARK ใช้ข้อมูลจากทั้ง 3 แหล่งนี้มาใช้ในการคัดเลือกและเสนอธีมนวัตกรรมพลิกโฉม วิเคราะห์ผลกระทบที่มีต่ออุตสาหกรรมสาขาต่าง ๆ และวางแผนจัดการพอร์ตการลงทุน
นอกจากการทำวิจัยในระดับภาพกว้างแล้ว ARK ยังทำวิจัยและวิเคราะห์ในระดับกิจการเพื่อประเมินศักยภาพและขีดความสามารถในการเป็นผู้นำ การสร้างการเติบโต และการสร้างผลกำไร ซึ่งเป็นกระบวนการที่ ARK เรียกว่า STOCK SELECTION AND VALUATION เพื่อเฟ้นหากิจการที่จะเป็นผู้ชนะ ผู้นำ และได้ประโยชน์จากนวัตกรรมพลิกโฉมในอนาคต โดยใช้เกณฑ์การให้คะแนนที่ ARK ได้พัฒนาขึ้นมา ซึ่งให้ความสำคัญกับการจัดการบุคลากรที่มีสมรรถนะสูง วัฒนธรรมการทำงาน การลงทุนในการวิจัยและพัฒนา ความสามารถในการสร้างยอดขายและทำตลาด กำแพงป้องกันคู่แข่งรายใหม่ ความเป็นผู้นำในตลาดนั้น ๆ แนวโน้มผลตอบแทน และความเสี่ยงในด้านต่าง ๆ จากนั้นจึงเป็นการนำหลักการกระจายความเสี่ยงและการบริหารพอร์ตโฟลิโอมาใช้เพื่อลดความเสี่ยงและเพิ่มความยั่งยืนของผลตอบแทนจากการลงทุน
ท่านผู้อ่านที่สนใจภาพการคาดการณ์อนาคตของ ARK สามารถดาวน์โหลดรายงานผลการศึกษาของ ARK ได้จากเว็บไซต์ https://ark-invest.com/big-ideas-2021 ซึ่งรายงานดังกล่าวจัดกลุ่มนวัตกรรมพลิกโฉมออกเป็น 16 หัวข้อ และวิเคราะห์ภาพอนาคตที่เป็นไปได้ซึ่งผู้คนในสังคมส่วนใหญ่อาจยังคาดไม่ถึงและไม่ได้ตระหนักถึงผลกระทบและโอกาส เช่น Deep Learning จะเร่ง (Turbocharge) การพัฒนาเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมให้เร็วยิ่งขึ้น และสร้างมูลค่าเพิ่มชุดใหม่มากกว่าเทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต ยานยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองจะทำให้เจ้าของรถยนต์สามารถสร้างผลตอบแทนให้กับรถยนต์ของตนเอง (ปล่อยให้เป็นแท็กซี่ไร้คนขับในช่วงที่ตนไม่ใช้รถยนต์) และทำให้ต้นทุนการเดินทางด้วยรถยนต์ลดลง เป็นต้น
หมายเหตุ : บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้ผู้อ่านเข้าใจถึงการนำแนวคิดการคาดการณ์อนาคตไปประยุกต์ใช้ในภาคธุรกิจสาขาการจัดการลงทุน โดยไม่มีวัตถุประสงค์ชี้นำช่องทางการลงทุนแต่อย่างใด กิจการที่ ARK ลงทุนหลายกิจการในปัจจุบันยังอยู่ในสภาพที่ขาดทุน และยังคงมีภาพอนาคตที่เป็นไปได้อีกหลายสถานการณ์ซึ่งอาจไม่ตรงกับที่ ARK คาดการณ์ไว้ทั้งหมด
บทความโดย
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รักษ์พงศ์ วงศาโรจน์
บทความที่เกี่ยวข้อง:
ไม่มีบทความที่เกี่ยวข้องสำหรับโพสต์นี้